มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ชอบความเสี่ยงโดยธรรมชาติ เมื่อเจอความเสี่ยงมักเลี่ยงหรือเผชิญหน้าด้วยความไม่เต็มใจ หากเราไม่มั่นใจว่าอาหารตรงหน้าปลอดภัยและอร่อยหรือไม่ เราอาจไม่กล้าชิม หรือหากจะให้ซื้อก็คงไม่ยินดีจะจ่ายสักเท่าไร ความมั่นใจเป็นพื้นฐานที่สำคัญของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการค้าขายหรือการลงทุน ซึ่งรวมถึงเรื่องเงินเช่นกัน
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น… การที่เงินสามารถสัมผัสได้ทำให้ข้อมูลกำลังซื้อเป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องจดจำหนี้สินระหว่างกัน ไม่จำเป็นต้องมีการผูกมัดสัญญา ขอเพียงยอมรับในมูลค่าของเงินนั้น เราก็สามารถนำไปใช้แลกสินค้าและบริการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และหากสิ่งที่นำมาใช้แทนเงินมีความคล้ายกันมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือคุณภาพ เช่น ทองคำ ก้อนชา สิ่งที่นำมาใช้แทนเงินก็สามารถกลายเป็นหน่วยวัดข้อมูลหรือสกุลเงินไปโดยปริยายได้ด้วย
ในการเงิน เราเรียกเงินสัญลักษณ์ (token-based money) เช่นนี้ว่า bearer instrument หมายความว่าผู้ถือคือเจ้าของ ไม่จำเป็นต้องถามว่าได้มาจากใคร ไม่ได้ผูกติดอยู่กับฐานข้อมูลไหนเพราะข้อมูลของความเป็นเงินถูกผนวกอยู่กับสิ่งที่ใช้แทนเงิน เมื่อยืนยันว่าสิ่งนั้นเป็น “ของแท้” การทำให้กำลังซื้อกลายเป็นสัญลักษณ์ทางกายภาพขึ้นมาจึงถือเป็นการสร้างความมั่นใจที่สำคัญ ทำให้ผู้คนกล้ายอมรับมากขึ้น เงินและสกุลเงินจึงเป็นเรื่องเดียวกัน
การสร้างความมั่นใจด้วย จึงเป็นการลดต้นทุนในการทำธุรกิจ ทำให้เกิดธุรกรรมต่าง ๆ ระหว่างกันง่ายขึ้น การใช้เงินสัญลักษณ์มีความสะดวกในการพกพาและชำระ ไม่ต้องมาคอยหักลบกลบหนี้ระหว่างกันให้วุ่นวาย ทำให้เกิดการค้าขายกันได้สะดวกขึ้น นอกจากจะเกิดภาษากลางในการสื่อสารขึ้นแล้ว การใช้เงินสัญลักษณ์ที่อิงจากทองคำในยุคกลางจึงอาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดพัฒนาการอย่างรวดเร็วในยุคนั้น